สำนักเสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชน ลงพื้นที่ศึกษาดูงาน และแลกเปลี่ยนเรียนรู้การบริหารจัดการ และพัฒนาทรัพยากรในพื้นที่อย่างยั่งยืน
📌 ณ ทัณฑสถานเกษตรอุตสาหกรรมเขาพริก ตำบลคลองไผ่ อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา และ เขาใหญ่พาโนรามาฟาร์ม ตำบลหนองน้ำแดง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
🗓️ วันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 เวลา 10.00 - 16.00 น.
👨💼 นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน มอบหมายให้นางสาวจันทร์หอม สีแดง ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนองครักษ์ และนักวิชาการพัฒนาชุมชนของสำนักเสริมสร้างความเข้มแข็ง ลงพื้นที่ศึกษาดูงาน และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมศักยภาพของกลุ่มเป้าหมายให้มีทักษะการบริหารจัดการ และพัฒนาทรัพยากรในพื้นที่อย่างยั่งยืน ตลอดจนการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยมีพื้นที่เป้าหมาย จำนวน 2 แห่ง ดังนี้
🌤️ในช่วงเช้าเยี่ยมชมศูนย์ฝึกวิชาชีพด้านการเกษตรอินทรีย์ ตั้งอยู่ภายในทัณฑสถานเกษตรอุตสาหกรรมเขาพริก ตำบลคลองไผ่ อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา โดยมีวัตถุประสงค์ 3 ด้าน ดังนี้
(1) เพื่อให้ผู้ต้องขังได้ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับการปลูกพืชเกษตรอินทรีย์ (ออร์แกนิกส์) ซึ่งปัจจุบันกำลังได้รับความนิยมจากผู้บริโภค เนื่องจากตระหนักถึงผลกระทบจากการใช้สารเคมี
(2) เป็นการเพิ่มรายได้ให้กับนักโทษ
(3) เป็นการดึงภาคเอกชนและส่วนราชการเข้ามามีส่วนร่วม และเข้ามาฝึกอาชีพด้านการเกษตร
ในการนี้ได้รับความอนุเคราะห์จากนางพัทธ์ธีรา โชควรเลิศนนท์ ตำแหน่งผู้อำนวยการส่วนพัฒนาผู้ต้องขัง ทัณฑสถานเกษตรอุตสาหกรรมเขาพริก ได้พาชมโครงการศูนย์เรียนรู้โครงการพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง กรมราชทัณฑ์ เรือนจำตัวอย่างความสำเร็จ ทัณฑสถานเกษตรอุตสาหกรรมเขาพริก จำนวน 3 ฐานเรียนรู้ ได้แก่
(1) ฐานเรียนรู้หลัก
1.1) ฐานเรียนรู้ คนติดดิน เป็นการสาธิตการทำอิฐดิบที่มีส่วนประกอบหลัก 4 ประเภท คือ ทราย แกลบ ดินเหนียวและน้ำ
1.2) ฐานเรียนรู้ คนรักษ์แม่ธรณี เป็นการสาธิตการห่มดิน เพื่อช่วยเก็บกักความชื้นและเพิ่มความอุดมสมบรูณ์ภายในดิน
1.3) ฐานเรียนรู้ คนรักษ์ป่า เป็นฐานให้ความรู้เกี่ยวกับการปลูกป่า 5 ระดับ ปลูกป่า 3 อย่างประโยชน์ 4 อย่าง คือ ไม้กิน ไม้ฟืน ไม้สร้างบ้าน และไม้ร่มเงา
1.4) ฐานเรียนรู้ คนรักษ์น้ำ เป็นการจำลองการสร้างฝายชะลอน้ำ
1.5) ฐานเรียนรู้ คนเอาถ่าน เป็นการสาธิตการเผาถ่าน
1.6) ฐานเรียนรู้ คนมีไฟ เป็นการจัดแสดงเครื่องตะบันน้ำ พลังงานชุมชน ซึ่งเป็นภูมิปัญญาพื้นถิ่นเพื่อช่วยส่งน้ำขึ้นที่สูงอย่างมีประสิทธิภาพ
1.7) ฐานเรียนรู้ คนมีน้ำยา สาธิตการทำน้ำยาล้างจานและสบู่
1.8) ฐานเรียนรู้ คนรักษ์แม่โพสพ เป็นการให้ความรู้เกียวกับการปลูกข้าวพันธุ์ท้องถิ่นและมีกิจกรรมเพื่อการมีส่วนร่วม เช่น การตำข้าว
1.9) ฐานเรียนรู้ คนรักษ์สุขภาพ เป็นการประยุกต์ใช้สมุนไพรเพื่อช่วยในการการไหลเวียนเลือดและลดอาการเท้าบวม
(2) ฐานเรียนรู้เครือข่าย
2.1) ฐานเรียนรู้เครือข่าย อารักขาพืช เป็นการเลี้ยงแมลงเพื่อใช้ในการกำจัดแมลงศัตรูพืชตามธรรมชาติ
2.2) ฐานเรียนรู้เครือข่าย หม่อนไหม เป็นการปลูกต้นหม่อนเพื่อนำมาเลี้ยงหนอนไหมจนถึงระยะที่สามารถผลิตเส้นใยแล้วนำมาแปรรูปเป็นสิ่งทอ
2.3) ฐานเรียนรู้เครือข่าย ไผ่สร้างชาติ เป็นการปลูกไผ่กิมซุงและไผ่เลี้ยง เพื่อนำมาใช้ประโยชน์
(3) ฐานเรียนรู้นวัตกรรม
3.1) ฐานเรียนรู้นวัตกรรม ขยะทองคำ เป็นการแปรรูปขวดพลาสติกให้กลายเป็นเส้นใยแล้วนำมาสานทำเป็นไม้กวาด
นอกจากนี้วิทยากรยังได้พาชมโครงการศูนย์เรียนรู้ จำนวน 4 โครงการ ได้แก่
(1) โครงการศูนย์เรียนรู้ การเลี้ยงไก่ไข่ ความจุ 100,000 ตัว ประกอบไปด้วย โรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่ จำนวน 4 หลัง ภายในมีการจัดเรียงไก่ไข่แบบ A-Frame (3 ชั้น / 4 แถว) ความจุไก่ไข่ 25,000 ตัว/หลัง
(2) โครงการศูนย์เรียนรู้ การเลี้ยงสุกรขุน ความจุ 2,400 ตัว ประกอบไปด้วย โรงเรือนเลี้ยงสุกรขุน จำนวน 4 หลัง ความจุสุกรขุน 600 ตัว/หลัง
(3) โครงการระบบแก๊สชีวภาพจากมูลไก่ไข่และสุกร เป็นบ่อ Cover lagoon ขนาด 4,000 ลบ.ม. พร้อมด้วยเครื่องกำเนิดไฟฟ้าด้วยแก๊สชีวภาพที่สามารถช่วยประหยัดไฟฟ้าในการเลี้ยงไก่ไข่และสุกรได้ 2.585 ล้านบาทต่อปี
(4) โครงการศูนย์เรียนรู้ การปลูกทุกเรียนและพืชเสริม(กล้วย) ซึ่งมีการบริหารจัดการพื้นที่ในการปลูกทุเรียนพร้อมกล้วย โดยมีระยะปลูกทุเรียนห่างกัน 10 × 10 เมตร และมีการเว้นระยะปลูกกล้วยห่างจากทุเรียน 3.3 เมตร
🌤️ในช่วงบ่ายเข้าเยี่ยมชมการบริหารจัดการปลูกพืชในโรงเรือนอัจฉริยะของเขาใหญ่พาโนรามาฟาร์ม ตำบลหนองน้ำแดง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ก่อตั้งขึ้นโดยคุณปรเมศวร์ สิทธิวงศ์ และคุณแอนนา สิทธิวงศ์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแบบอย่างการประยุกต์นวัตกรรมสมัยใหม่ให้เข้ากับธุรกิจเกษตรกรรม และเป็นสถานที่แลกเปลี่ยนความรู้ทางการเกษตรควบคู่กับการท่องเที่ยว
ในการนี้ได้รับความอนุเคราะห์จาก นายศุภโชค ศรีบุญเรือง ตำแหน่ง รองประธานผู้บริหารระดับสูง ได้พาเยี่ยมชมโรงเรือนอัจฉริยะที่มีการให้ปุ๋ยด้วยระบบ Fertigation ซึ่งเป็นการให้ปุ๋ยจำนวน 4 สูตรแก่พืชผักอย่างเหมาะสม โดยในหนึ่งระบบควบคุมจะดูแลโรงเรือนจำนวน 6 หลัง จำนวน 60 โรงเรือน ผ่านระบบ IOT และควบคมสั่งการผ่าน Application "TUYA" อีกทั้งยังเปิดอบรมให้กับผู้ที่มีความสนใจในการประกอบธุรกิจการปลูกผักในโรงเรือนอัจฉริยะ ที่มีการการันตีรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย ซึ่งสามารถสร้างผลกำไรได้ไม่น้อยกว่า 40,000 บาทต่อเดือน
ในการปลูกพืชระยะ 2 สัปดาห์แรกนั้น จะต้องมีการคลุมผ้าใบกรองแสงที่หลังคาโรงเรือน หลังจากนั้นต้องมีการควบคุมความชื้นในดินเพื่อไม่ให้ดินเป็นกรดมากเกินไป ซึ่งอาจส่งผลต่อการเติบโตของพืชผักที่ปลูก วิทยากรได้แนะนำการเก็บข้อมูลของดินผ่านชุดเซ็นเซอร์ที่ฝังไว้ในดิน ซึ่งจะสามารถเก็บข้อมูล OM , EC , pH และความชื้น
นอกจากนี้วิทยากรยังแนะนำปลูกข้าวสีสดอินทรีย์อยู่ในแบรด์การค้า "ศิรินทร์" ที่ปลอดสาร methylbrominde ซึ่งเป็นสารที่ใช้ในการป้องกันมอดในข้าว
ทั้งนี้สำนักเสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชนจะนำองค์ความรู้ที่ได้จากการศึกษาดูงานและแลกเปลี่ยนความรู้กับวิทยากรไปประยุกต์ใช้เพื่อส่งเสริมศักยภาพของกลุ่มเป้าหมายให้มีทักษะการบริหารจัดการ และพัฒนาทรัพยากรในพื้นที่อย่างยั่งยืน ตลอดจนการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด